eSIM Data 101: How to Track and Top Up Your Data

ข้อมูล eSIM 101: วิธีเช็คข้อมูล, วิธีเติมเงินบน Airalo App และวิธีประหยัดการใช้ข้อมูล

การที่ต้องคอยเช็คข้อมูลการใช้งานสำหรับคุณเป็นเรื่องยุ่งยากหรือไม่? สิ่งสุดท้ายที่คุณควรกังวลระหว่างเดินทางคือการต้องคอยเช็คข้อมูลและกังวลว่าข้อมูลจะหมดระหว่างเดินทางหรือไม่ 'นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเรา'ถึงทำให้การติดตามการใช้งานข้อมูลของคุณและการเติมเงินบน eSIM ของ Airalo เป็นเรื่องง่ายในระหว่างการเดินทาง เรียนรู้เกี่ยวกับ eSIM รวมถึงวิธีเช็คข้อมูล การเติมเงิน และวิธีการประหยัดการใช้ข้อมูลเมื่อคุณเดินทาง

ในบทความนี้:

eSIM คืออะไร?

'เริ่มต้นด้วยข้อมูลพื้นฐานก่อนเลย: eSIM คืออะไร? eSIM คือซิมการ์ดแบบฝัง ทำงานเหมือนกับซิมทั่วไป แต่มี'แต่ติดตั้งอยู่ในอุปกรณ์ของคุณ และทำงานแบบดิจิทัล 100% eSIM ช่วยให้คุณดาวน์โหลดแผนข้อมูลและเชื่อมต่อกับเครือข่ายมือถือได้ทันที 

'ไม่จำเป็นต้องติดต่อผู้ให้บริการซิมหลักของคุณ หรือซื้อซิมใหม่ หรือต้องคอยจัดการซิมการ์ดหลายซิม หากอุปกรณ์ของคุณ ปลดล็อคเครือข่ายและรองรับ eSIM คุณสามารถติดตั้งและเปิดใช้งาน eSIM บนสมาร์ทโฟนของคุณได้เลย

ข้อมูลเซลลูลาร์คืออะไร?

eSIM เชื่อมต่อคุณกับเครือข่ายท้องถิ่นเพื่อให้คุณสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ ข้อมูลมือถือ (หรือที่เรียกว่าข้อมูลเซลลูลาร์) คือข้อมูลดิจิทัลที่ถ่ายโอนไปยังอุปกรณ์ของคุณผ่านเครือข่ายเซลลูลาร์ แทนที่จะเป็นไฟเบอร์ เคเบิล หรือการเชื่อมต่อ DSL แบบเดิม ตัวอย่างที่ชัดเจนคือหากคุณ'กำลังใช้อินเทอร์เน็ตโดยไม่มี Wi-Fi แสดงว่าคุณ'กำลังใช้ข้อมูลเครือข่ายเซลลูลาร์หรือซึ่งก็คือข้อมูลมือถืออยู่

ความแตกต่างระหว่าง Wi-Fi และข้อมูลเซลลูลาร์คืออะไร?

Wi-Fi และข้อมูลเซลลูลาร์ช่วยให้คุณสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตบนโทรศัพท์ของคุณได้ ความแตกต่างที่สำคัญระหว่าง Wifi และข้อมูลเซลลูลาร์คือตำแหน่งที่มาของสัญญาณ ด้วยการเชื่อมต่อ Wi-Fi คุณจะรับสัญญาณจากเราท์เตอร์ไร้สาย และมันจะ'ใช้ได้ก็ต่อเมื่อคุณ'อยู่ในระยะของสัญญาณเราท์เตอร์เท่านั้น 

ข้อมูลมือถือหรือถือเรียกว่าข้อมูลเซลลูลาร์จะถูกส่งผ่านการเชื่อมต่อไร้สาย 3G, 4G หรือ 5G ข้อดีของข้อมูลเซลลูลาร์นั้นคือคุณไม่จำเป็นต้องอยู่ในช่วงระยะของสัญญาณ'ของเราท์เตอร์ — คุณสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ทุกที่ แต่ถ้าคุณไม่ระวัง'ข้อมูลการใช้ข้อมูลเซลลูลาร์อาจมีค่าใช้จ่ายที่สูง การใช้ข้อมูลเกินปริมาณที่กำหนดในแผนบริการมือถือของคุณ (ทำได้ง่ายเมื่อคุณ'เลือกที่จะเปิดโรมมิ่งเมื่อไปต่างประเทศ) แต่อาจส่งผลให้มีการเรียกเก็บเงินเพิ่มเติมจากผู้ให้บริการของคุณ

การโรมมิ่งข้อมูลหมายถึงอะไร?

การโรมมิ่งข้อมูลคือเมื่อคุณเชื่อมต่อกับเครือข่ายของผู้ให้บริการต่างประเทศ'เพื่อใช้บริการข้อมูลเซลลูลาร์ผ่านอุปกรณ์มือถือของคุณในต่างประเทศ การโรมมิ่งจะเริ่มเมื่อคุณเดินทางออกนอกพื้นที่ที่เครือข่ายหลักของคุณรองรับ ไม่ว่าจะไปยังประเทศใหม่ จังหวัดหรือรัฐอื่น 

เมื่อเปิดโรมมิ่ง อุปกรณ์ของคุณจะเป็นเหมือนแขกสำหรับเครือข่ายใหม่ที่คุณเชื่อมต่อด้วย บริการโทร ข้อความ และข้อมูลของคุณจะถูกเรียกเก็บเงินในอัตราที่แตกต่างกันกับเครือข่ายหลักของคุณซึ่งโดยทั่วไปจะถูกเรียกเก็บในอัตราที่สูงกว่า คุณสามารถ หลีกเลี่ยงค่าธรรมเนียมโรมมิ่งที่ไม่คาดคิด โดยใช้ eSIM เมื่อคุณเดินทาง 

กิจกรรมอะไรบ้างที่ใช้ข้อมูลอินเทอร์เน็ต?

อะไรก็ตามในโทรศัพท์ของคุณที่ใช้อินเทอร์เน็ตในการส่งและรับข้อมูลจะใช้ข้อมูลเซลลูลาร์บนมือถือของคุณ กิจกรรมเหล่านี้ได้แก่ การท่องอินเทอร์เน็ต เช็คอีเมล เลื่อนดูโซเชียลมีเดีย สตรีมเพลงและวิดีโอ และอื่นๆ อีกมากมาย จำนวนข้อมูลที่แต่ละกิจกรรมใช้ก็แตกต่างกันไป ตัวอย่างเช่น การท่องเว็บใช้ข้อมูลประมาณ 50MB ต่อชั่วโมง ในขณะที่การสตรีมแบบ 4K อาจใช้ข้อมูลสูงถึง 7GB ต่อชั่วโมง 

คุณจำเป็นต้องใช้ข้อมูลเท่าไหร่?

อย่างที่คุณเห็น ข้อมูลมือถือมีหน่วยเป็นเมกะไบต์ (MB) และกิกะไบต์ (GB) ข้อมูล 1GB มีประมาณ 1,000 MB ข้อมูลไหนก็ตามที่มีการดาวน์โหลดหรืออัพโหลดจากอินเทอร์เน็ตจะใช้หน่วยข้อมูลเป็น MBs or GBs. 

ข้อมูลทีคุณต้องการจะขึ้นอยู่กับแอปพลิเคชันที่คุณใช้งานและกิจกรรมที่คุณทำระหว่างใช้อินเทอร์เน็ต อ้างอิงข้อมูลจากอุปกรณ์ Samsung, 1GB ของการใช้ข้อมูลจะหมายถึงการใช้เวลาของคุณ 20 ถึง 30 นาทีต่อวันสำหรับ 1 เดือน ในการ เช็ค emails, เล่น social media, และค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต รายละเอียดดังกล่าว'คือรายละเอียดคร่าวๆของกิจกรรมต่างๆที่ใช้อินเทอร์เน็ต

  • Google Maps: 5MB ต่อชั่วโมง
  • Social Media: 50MB ต่อชั่วโมง
  • ค้นหาข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต: 50MB ต่อชั่วโมง
  • เล่นเกมส์ออนไลน์: 70+MB ต่อชั่วโมง
  • เปิดเพลงออนไลน์: 100MB ต่อชั่วโมง
  • เปิดวิดิโอระดับ SD: 1GB ต่อชั่วโมง
  • เปิดวิดิโอระดับ HD: 4GB ต่อชั่วโมง
  • เปิดวิดิโอระดับ 4K: 7GB ต่อชั่วโมง

คุณสามารถใช้การประมาณการข้อมูลดังกล่าวเพื่อคำนวณการใช้ข้อมูลคร่าวๆของคุณได้'เพื่อดูว่าคุณควรเลือกแผนบริการ eSIM แบบใด

วิธีการเลือกแผนบริการ eSIM ให้เหมาะสำหรับการเดินทางของคุณ?

ตอนนี้คุณคงเข้าใจภาพรวมของการใช้ข้อมูลอินเทอร์เน็ตของแต่ละกิจกรรมเพื่อช่วยให้คุณเลือกแผนบริการได้อย่างเหมาะสมสำหรับทริปการเดินทาง คุณสามารถใช้ข้อมูลดังกล่าวอ้างอิงเพื่อเลือกแผนบริการ Airalo eSIM ได้ ซึ่งเลือกได้ตั้งแต่ จุดหมายปลายทางที่จะไป จำนวนข้อมูลที่ต้องการใช้ (GB) และระยะเวลาของแผนบริการ eSIM 

หาก'คุณกำลัง'จะเดินทางไปที่ฝรั่งเศส คุณจะออกทริป'เป็นระยะเวลาสองอาทิตย์และต้องการใช้ข้อมูลอินเทอร์เน็ต 2GBs โดยประมาณ คุณสามารถไปที่หน้าเว็บไซท์ Airalo'เลือกประเทศฝรั่งเศส และเลือกแพ็คเกจที่คุณต้องการได้เลยซึ่งในที่นี้ก็คือ 2GB ระยะเวลาแพ็คเกจ 15 วัน เมื่อได้ eSIM มาแล้ว คุณสามารถกดดาวน์โหลด eSIM ได้จากในแอป Airalo และติดตั้งบนอุปกรณ์ eSIM จะทำการเชื่อมต่อกับเครือข่ายท้องถิ่งโดยทันทีเมื่อคุณเดินทางถึงฝรั่งเศส

วิธีการเช็คข้อมูลการใช้งาน?

ด้วย Airalo eSIM คุณจะได้ข้อมูลและระยะเวลาที่คุณต้องการ ถ้าคุณใช้ข้อมูลหมดหรือแพ็คเกจบริการหมดอายุก่อน คุณก็สามารถเติมเงินที่ eSIM ได้โดยง่าย หรือสามารถซื้อแพ็คเกจใหม่ได้ตามคุณต้องการ สิ่งที่ Airalo ไม่เหมือนผู้ให้บริการมือถือของคุณ'คือพวกเราไม่เรียกเก็บค่าโรมมิ่งจากคุณระหว่างเดินทาง

ดังนั้นการที่ตรวจสอบแผนบริการก่อนคุณเดินทางเป็นแผนที่ฉลาดอย่างมาก'เนื่องจากจะช่วยให้คุณจำกัดการใช้ข้อมูลได้อย่างเหมาะสมและจำกัดค่าใช้จ่ายได้ ต่อไปนี้คือวิธีที่ Airalo ทำให้การติดตามข้อมูลของคุณเป็นเรื่องง่าย

ใช้ Airalo Widget เพื่อติดตามการใช้งานข้อมูลบน iPhone

ถ้าคุณมี iPhone  คุณสามารถใช้ Airalo iOS widget เพื่อติดตามการใช้ข้อมูลของคุณผ่านหน้าจอของโฮมสกรีน ต่อไปนี้'คือวิธีการตั้งค่า:

  • แตะไปที่ไอคอนของแอป แล้วกดค้างไว้เลือกแก้ไขหน้าจอหลัก (Home Screen)
  • คลิก+ที่มุมซ้ายบนเพื่อเพิ่มการแสดงผลบนหน้าจอ 
  • เลื่อนและคลิกแอป Airalo
  • เลือกขนาดของการแสดงผล เล็ก กลาง และใหญ่ แล้วแตะเพิ่ม Widget
  • เลือก eSIM ที่คุณต้องการติดตามโดยกดค้างไว้แล้วแตะแก้ไข Widget

ตอนนี้คุณก็สามารถเห็นการใช้ข้อมูล eSIM บนหน้าจอได้อย่างง่ายดายแล้วล่ะ เมื่อข้อมูลของคุณใกล้หมด Siri จะโชว์ widget ด้านบน"Smart Stack" เพื่อที่จะคอยเตือนคุณให้เติมเงิน eSIM เพื่อจะได้ไมพลาดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

เปิดใช้งานการแจ้งเตือนบน Airalo app

หากคุณ'เปิดใช้งานการแจ้งเตือนบน Airalo app'เมื่อข้อมูลคุณใกล้หมดหรือแพ็คเกจกำลังจะหมดอายุ จะมีการแจ้งเตือนล่วงหน้า

วิธีตั้งค่าการแจ้งเตือนแบบพุช (Push notification) บน iPhone:

  • ไปที่ การตั้งค่า (Settings).
  • แตะ การแจ้งเตือน.
  • เลือก Airalo app
  • เปิด อนุญาติการแจ้งเตือน และเลือกรูปแบบการแจ้งเตือนที่คุณต้องการ

วิธีตั้งค่าการแจ้งเตือนแบบพุช (Push notification) บน Android:

  • ไปที่ การตั้งค่า (Settings).
  • แตะ การแจ้งเตือน > การตั้งค่า App (App Settings).
  • แตะที่เมนูและเลือก All Apps.
  • แตะที่ Airalo app
  • เปิดการแจ้งเตือน

วิธีเติมเงินบน Airalo eSIM

ข้อมูลเหลือน้อยใช่ไหม? หาก eSIM ของคุณเป็นแบบชาร์จได้ คุณสามารถเติมเงินได้ในแอป Airalo หากต้องการเติมเงิน eSIM ของคุณ ให้ทำตามคำแนะนำเหล่านี้:

  • เข้าสู่ระบบบัญชี Airalo ของคุณ
  • ไปที่ eSIM ของฉัน
  • แตะ eSIM ที่คุณต้องการเติมเงิน
  • แตะ เติมเงิน
  • เลือกแพ็กเกจที่คุณต้องการ

ถ้าคุณ'ไม่เห็น"ปุ่มเติมเงิน"นั้นหมายความว่า'eSIM ของคุณ'เป็นแบบไม่สามารถเติมเงินได้หรือ'มีการเปลี่ยนเครือข่ายเซลลูลาร์ของ eSIM นั้นหลังจากคุณได้ทำการใช้งานไปแล้ว ไม่ต้องกังวล คุณสามารถดาวน์โหลดแพ็คเกจ eSIM อันใหม่เพื่อเชื่อมต่อแทนได้

จะเกิดอะไรขึ้นหากปิดการใช้งานข้อมูลบน eSIM?

หากคุณปิดข้อมูลมือถือ คุณ'จะต้องเชื่อมต่อ Wi-Fi เพื่อใช้อินเทอร์เน็ตบนโทรศัพท์ของคุณ ซึ่งอาจเป็นเรื่องยากเมื่อเดินทาง เนื่องจากการเชื่อมต่อ Wi-Fi ที่เสถียรและปลอดภัยอาจไม่พร้อมใช้งานในระหว่างเดินทาง ด้วยเหตุนี้'จึงดีที่สุดที่จะไม่ใช้ Wi-Fi เพียงอย่างเดียวเมื่อคุณเดินทาง

เคล็ดลับ 7 ประการในการใช้ข้อมูลน้อยลง

คุณพบว่าคุณ'ตรวจสอบข้อมูลของคุณเร็วเกินไปหรือไม่? แม้ว่าข้อมูลมือถือจะช่วยให้คุณสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้จากทุกที่ แต่'จะเบิร์นเป็นกิกะไบต์ได้ง่าย ๆ ถ้าคุณไม่'ไม่ติดตามการใช้ข้อมูลของคุณ เคล็ดลับบางประการในการใช้ข้อมูลน้อยลงและเชื่อมต่ออยู่เสมอเมื่อคุณเดินทาง

1. ระวังการใช้งานข้อมูลเซลลูลาร์ที่ไม่จำเป็น (Background Data)

ข้อมูลมือถือ'ไม่ทำงานเมื่อคุณ'ใช้อินเทอร์เน็ตอีกครั้ง แอพจำนวนมากอัปเดตในพื้นหลังแม้ว่าคุณจะคิดว่า'ออฟไลน์อีกครั้ง และเดาว่า — สิ่งนี้ใช้ข้อมูลของคุณมากน้อยเพียงใด ที่นี่'จะแน่ใจได้อย่างไรว่าข้อมูลของคุณคือ't ทำงานต่อไปในพื้นหลัง

สำหรับอุปกรณ์ iOS:

  • ไปที่ การตั้งค่า
  • แตะ ทั่วไป (General)
  • แตะ รีเฟรช Background App แล้วปิด

สำหรับอุปกรณ์ Android:

  • ไปที่ การตั้งค่า
  • แตะ การเชื่อมต่อ การใช้ข้อมูล
  • ไปที่ส่วนของ Mobile ให้แตะ การใช้ข้อมูลมือถือ
  • เลือกแอปจากกราฟการใช้งาน
  • ปิด อนุญาตการใช้ข้อมูลที่ไม่จำเป็น (Background App)

2. ใช้โหมดประหยัดข้อมูลบน iPhone

หากอุปกรณ์ของคุณติดตั้ง iOS 13 หรือเวอร์ชันที่ใหม่กว่า คุณสามารถเปิดโหมดประหยัดข้อมูลเพื่อลดการใช้ข้อมูลของคุณได้ แต่ละแอปจะมีวิธีการลดการใช้ข้อมูลที่แตกต่างกันไป โดยทั่วไป นี่คือสิ่งที่คุณจะเจอเมื่อใช้โหมดประหยัดข้อมูล:

  • แอปจะหยุดใช้ข้อมูลเมื่อคุณ'ไม่ได้ใช้งาน
  • แอปจะไม่อัปเดตหรือรีเฟรช'อัตโนมัติ 
  • คุณภาพการสตรีมจะลดลง
  • การดาวน์โหลดและการสำรองข้อมูลอัตโนมัติจะถูกปิด
  • การอัปเดตอัตโนมัติจะหยุดชั่วคราว (เช่น รูปภาพ iCloud)

'วิธีเปิดโหมดประหยัดข้อมูลสำหรับ iPhone ของคุณ:

  • ไปที่ การตั้งค่า
  • แตะ เซลลูลาร์ > Cellular/Mobile Data
  • แตะสายโทรศัพท์โดยใช้อินเทอร์เน็ต (หาก'ทำงานอยู่ นี่จะเป็น eSIM ของคุณ)
  • เปิด โหมดประหยัดข้อมูล

3. วิธีการเปิดใช้งานโหมดประหยัดข้อมูลบน Android

บนอุปกรณ์ Android โหมดประหยัดข้อมูลจะทำงานคล้ายๆกันกับ iOS ซึงจะช่วยจำกัดการใช้งานข้อมูลที่ไม่จำเป็นจากแอปต่างๆบนอุปกรณ์ของคุณ'เมื่อคุณใช้งานเซลลูลาร์โดยไม่มี Wifi วิธีการเปิดใช้งานแตกต่างกันเพียงเล็กน้อยระหว่างอุปกรณ์ Samsung และ Google

นี่คือ'วิธีเปิดโหมดประหยัดพลังงานบน Samsung smartphone:

  • ไปที่ การตั้งค่า
  • แตะ การเชื่อมต่อ (Connections) > การใช้ข้อมูล (Data Usage)
  • แตะ โหมดประหยัดข้อมูล.
  • เปิด โหมดประหยัดข้อมูล.

โหมดประหยัดข้อมูลสำหรับอุปกรณ์ของ Google:

  • ไปที่ การตั้งค่า
  • แตะ  เครือข่าย & อินเทอร์เน็ต.
  • แตะ โหมดประหยัดข้อมูล.
  • เปิด โหมดประหยัดข้อมูล.

4. วิธีเปิดใช้งานแผนที่แบบออฟไลน์

หนึ่งใน apps การเดินทางที่ดีที่สุด คือ Google Maps. นักเดินทางหลายคนพึ่งพาแผนที่จาก Google Maps'ในการเดินทางเมื่อไปต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม การใช้แผนที่จาก Google Maps แบบออนไลน์— เป็นอะไรที่กินข้อมูลอินเทอร์เน็ตอย่างมากโดยเฉพาะเมื่อคุณเปิดแผนที่เดินทางบ่อยครั้ง

แต่โชคยังดีที่'มีวิธีที่ช่วยประหยัดข้อมูลกว่านั้น ซึ่งก็คือการเปิดแผนที่ Google Maps แบบออฟไลน์ ต่อไปนี้'คือวิธีการตั้งค่า:

  • เปิด Google Maps ขณะที่เชื่อมต่อกับ Wifi 
  • ค้นหาเกี่ยวกับจุดหมายปลายทางของคุณ.
  • เริ่มออกจากจุดสตาร์ท
  • แผนที่'จะค่อยๆนำคุณไปสู่จุดหมายโดยปราศจากการใช้ข้อมูลเซลลูลาร์

คุณยังสามารถดาวน์โหลดแผนที่ลงบนอุปกรณ์มือถือของคุณ:

  • เปิด Google Maps ขณะที่เชื่อมต่อกับ Wifi
  • ค้นหาจุดหมายปลายทางที่คุณต้องการและกดดาวน์โหลดแผนที่ลงบนอุปกรณ์ 
  • ด้านล่างให้แตะ More > ดาวน์โหลดแผนที่โหมดออฟไลน์ (Download Offline Map)  ดาวน์โหลด.

5. ใช้วิธีการดาวน์โหลด'แทนที่การเปิดออนไลน์

ดาวน์โหลดเพลง พ็อดคาสท์ และ Netflix ที่ต้องการไว้ฟังหรือดูเตรียมไว้ก่อนออกเดินทางเพื่อป้องกันการสตรีมข้อมูลตอนเดินทาง หากต้องการจะดาวน์โหลด? รอจนกว่าคุณจะเชื่อมต่อกับ Wifi อีกครั้งเพื่อประหวัดการใช้ข้อมูลจาก eSIM

6. ตรวจสอบการใช้งานข้อมูล

If you're still using too much data, take a look at your app data usage. You may have an app that's using more data than you expected. In your phone's settings, you'll find a list of all the apps you've installed and the amount of data they use. From there, you can uninstall the apps you don't use often and toggle off anything using too much data.

Pro tip: รีเซ็ตการใช้งานข้อมูลทั้งหมดก่อนคุณจะออกเดินทางเพื่อที่จะได้ตรวจสอบการใช้งานข้อมูลบนอุปกรณ์มือถือได้อย่างแม่นยำ

7. ปิด Wi-Fi Assist

Wi-Fi Assist (หรือ การสลับเครือข่ายบน Android) โปรดตรวจสอบว่าคุณกำลังเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตที่เสถียร สมมุติว่าสัญญาณ Wifi ของคุณมีสัญญาณที่อ่อนเกินไปและไม่เสถียร หากเป็นกรณีนั้น'เครือข่ายเซลลูลาร์ของคุณจะถูกสลับอัตโนมัติเพื่อไปใช้สัญญาณที่เสถียรกว่า'เพื่อไม่ให้คุณสูญเสียการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต นั่นเป็นสิ่งที่ดีมาก'หากคุณกำลังใช้ Wifi ที่บ้าน แต่ถ้าคุณกำลังเดินทางล่ะ'นั่นก็อาจจะเป็นอะไรที่เสียหายอย่างมากถ้าต้องเผชิญหน้ากับค่าโรมมิ่งที่ไม่คาดคิด

ต่อไปนี้'คือวิธีการปิด Wi-Fi Assist บนอุปกรณ์ iPhone:

  • ไปที่ การตั้งค่า
  • แตะ ข้อมูลมือถือ (Cellular/Mobile Data)
  • เลื่อนไปที่ด้านล่างแล้วปิด Wi-Fi Assist

วิธีปิด Network Switch บนอุปกรณ์ Android ของคุณ:

  • ไปที่ การตั้งค่า
  • แตะ การเชื่อมต่อ (Connections)  Wi-Fi
  • แตะจุดสามจุดที่มุมแล้วเลือก Advanced
  • ปิด การสลับการใช้ข้อมูลมือถือ

หลังจากสิ้นสุดบทความ'เราเชื่อว่าคุณจะได้รับข้อมูลที่อัปเดตเพียงพอเกี่ยวกับวิธีการติดตาม จัดการข้อมูล และเติมเงิน eSIM แล้ว! ไปที่ศูนย์ช่วยเหลือของเราเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ การใช้ Airalo eSIM ของคุณ


พร้อมที่จะลองใช้ eSIM และเปลี่ยนวิธีการเชื่อมต่อของคุณหรือยัง

ดาวน์โหลดแอป Airalo เพื่อซื้อ จัดการ และเติมเงิน eSIM ของคุณได้ทุกที่ทุกเวลา!

Airalo | Download mobile app
Airalo | Use your Free Credit

ใช้เครดิตฟรีของคุณ

คุณสามารถรับ Airmoney มูลค่า USD $3.00 ได้ด้วยการแชร์รหัสการแนะนำของคุณกับเพื่อนๆ